Allergan vs Dysport vs Xeomin

Botox หรือรู้จักกันในนาม botulinumtoxin สามารถทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดเป็นอัมพาต ใช้เพื่อรักษาริ้วรอยหรือรอยย่นต่างๆบริเวณใบหน้า Botox ทั้งสามยี่ห้อนี้ถูกผลิตขึ้นจากคนละบริษัท ทำให้กระบวนการผลิต ราคา สูตรโมเลกุลและตัวยาต่างกัน ในขณะที่ตัวยาหลักคือ botulinum toxin ชนิด A แต่ก็จะมีโปรตีนบางชนิดที่แตกต่างกัน botox ทั้งสามยี่ห้อนี้ต่างกันอย่างไร?

Xeomin

Allergan

Dysport

สรุป

Xeomin

Xeomin ได้รับการยอมรับจาก FDA ในปี 2011 Xeomin จะมีแค่ botulinum toxin ชนิด A เท่านั้น กระบวนการผลิต botox ของ Xeomin เป็น botox บริสุทธิ์เนื่องจาก xeomin ไม่มีเกราะโปรตีนเหมือนสองยี่ห้อหลัง ทำให้โอกาสเกิดการแพ้หลังฉีด botox ยี่ห้อนี้น้อยมากและยังทำให้การทำงานของ xeomin เร็วกว่าสองยี่ห้อหลัง botox ยี่ห้อนี้ยังไม่ต้องเก็บในตู้เย็นอีกด้วย เนื่องจากไม่มีส่วนผสมของสิ่งเจือปนอื่นๆเลย ทำให้ xeomin ได้รับความนิยมอย่างมากในคนไข้ที่ดื้อ botox จากการฉีด botox ปลอม Xeomin ยังใช้รักษากล้ามเนื้อแข็งเกร็งที่แขนขาหรือเปลือกตาได้อีกด้วย

Allergan

Allergan เป็น botox ยี่ห้อแรกที่ได้รับการยอมรับจาก FDA ในปี 2002 ว่าปลอดภัยสำหรับการฉีดบริเวณหน้าผากและตีนกา allergan มีเกราะโปรตีนรอบโมเลกุล botox ที่ครบวง ทำให้โมเลกุลของ botox ยี่ห้อนี้หนัก allergan จึงถูกดูดซึมได้ช้ากว่ายี่ห้ออื่น ผลของโปรตีนนี้ยังทำให้ร่างกายมีโอกาสสร้างภูมิคุ้มกันมาต่อต้าน ทำให้เกิดการแพ้ได้อีกด้วย allergan ยังมีโปรตีน albumin และโซเดียมคลอไรด์ allergan จะเห็นผลหลังฉีดประมาน 7 วันซึ่งผลของมันสามารถอยู่ได้ถึง 6 เดือน Allergan ยังสามารถรักษาภาวะไมเกรน กระเพาะปัสสาวะทำงานหนักหรือลดเหงื่อได้อีกด้วย ในขณะที่ xeomin ไม่สามารถใช้ได้

Dysport 

Dysport ได้รับการยอมรับจาก FDA ในปี 2009 และถูกเคลมว่ามีโอกาสเกิด botox ไหลไปที่บริเวณอื่นบนใบหน้าได้ เนื่องจาก dysport มีเกราะโปรตีนรอบโมเลกุลที่น้ำหนักน้อยกว่า allergan ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมยาได้ง่ายกว่า allergan dysport สามารถนำมาใช้ในโรคกล้ามเนื้อบริเวณคอ หรือ tortocollis ได้ในขณะที่ allergan ไม่สามารถทำได้ และเนื่องจาก dysport ดูดซึมได้ไวกว่า allergan 3 เท่าทำให้ dysport สามารถอยู่ได้นานกว่า allergan ประมาน 1 เดือน dysport ยังมีส่วนผสมของโปรตีน albumin, lactose, และโปรตีนจากนมวัว นอกจากนั้น dysport ยังสามารถเก็บในตู้เย็นปกติได้ ในขณะที่ allergan ต้องการอุณหภูมิประมาน -5 องศาเซลเซียส

สรุป

ในแง่ของการรักษา botox ทั้งสามยี่ห้อนี้จะไม่ต่างกันมาก ประสิทธิภาพของ botox นั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็น บริเวณบนใบหน้าที่มีปัญหา แพทย์สามารถเลือกใช้ botox ยี่ห้อที่เหมาะกับกล้ามเนื้อมัดนั้นมากแค่ไหน รวมถึงประวัติการได้รับ botox ของปลอมหรือไม่ ปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลให้ผลของการฉีด botox แตกต่างกัน

  • Share this post